ขอขอบเขตเพิ่มเติม

คุณควรร้องขอขอบเขตนิดเดียวเท่าที่จะเป็นไปได้เมื่อลงชื่อเข้าใช้ผู้ใช้ครั้งแรกเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด หากฟังก์ชันหลักของแอปไม่ได้เชื่อมโยงกับ บริการของ Google คุณมักจะ ต้องGoogleSignInOptions.DEFAULT_SIGN_INกำหนดค่าเพียงเล็กน้อย เมื่อลงชื่อเข้าใช้

หากแอปมีฟีเจอร์ที่ใช้ข้อมูลจาก Google API ได้ แต่ไม่ได้ จำเป็นต่อฟังก์ชันหลักของแอป คุณควรออกแบบแอปให้ รองรับกรณีที่เข้าถึงข้อมูล API ไม่ได้ ตัวอย่างเช่น คุณอาจซ่อนรายการไฟล์ที่บันทึกไว้ล่าสุดเมื่อผู้ใช้ไม่ได้ให้สิทธิ์เข้าถึงไดรฟ์

คุณควรขอขอบเขตเพิ่มเติมที่จำเป็นต่อการเข้าถึง Google API เฉพาะเมื่อผู้ใช้ดำเนินการที่ต้องเข้าถึง API ใด API หนึ่ง เช่น คุณอาจขอสิทธิ์เข้าถึงไดรฟ์ของผู้ใช้เฉพาะเมื่อผู้ใช้แตะปุ่ม "บันทึกลงในไดรฟ์" เป็นครั้งแรก

การใช้เทคนิคนี้จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการสร้างความสับสนให้ผู้ใช้ใหม่หรือ ผู้ใช้ทั่วไปเกี่ยวกับสาเหตุที่ระบบขอสิทธิ์บางอย่าง

ขอสิทธิ์ที่การดำเนินการของผู้ใช้ต้องใช้

ทุกครั้งที่ผู้ใช้ดำเนินการที่ต้องใช้ขอบเขตที่ไม่ได้ขอเมื่อลงชื่อเข้าใช้ ให้เรียกใช้ GoogleSignIn.hasPermissions เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้ได้ให้สิทธิ์ที่จำเป็นแล้วหรือไม่ หากไม่เป็นเช่นนั้น ให้เรียกใช้ GoogleSignIn.requestPermissions เพื่อเปิดใช้กิจกรรมที่ขอขอบเขตเพิ่มเติมที่จำเป็นจากผู้ใช้

เช่น หากผู้ใช้ดำเนินการที่ต้องเข้าถึงพื้นที่เก็บข้อมูลแอปในไดรฟ์ ให้ทำดังนี้

if (!GoogleSignIn.hasPermissions(
        GoogleSignIn.getLastSignedInAccount(getActivity()),
        Drive.SCOPE_APPFOLDER)) {
    GoogleSignIn.requestPermissions(
            MyExampleActivity.this,
            RC_REQUEST_PERMISSION_SUCCESS_CONTINUE_FILE_CREATION,
            GoogleSignIn.getLastSignedInAccount(getActivity()),
            Drive.SCOPE_APPFOLDER);
} else {
    saveToDriveAppFolder();
}

ในonActivityResultการเรียกกลับของกิจกรรม คุณสามารถตรวจสอบว่าได้รับสิทธิ์ที่จำเป็นสำเร็จหรือไม่ และหากได้รับแล้ว ให้ดำเนินการของผู้ใช้

@Override
public void onActivityResult(int requestCode, int resultCode, Intent data) {
    super.onActivityResult(requestCode, resultCode, data);
    if (resultCode == Activity.RESULT_OK) {
        if (RC_REQUEST_PERMISSION_SUCCESS_CONTINUE_FILE_CREATION == requestCode) {
            saveToDriveAppFolder();
        }
    }
}

นอกจากนี้ คุณยังส่ง GoogleSignInOptionsExtension ไปยัง hasPermissions และ requestPermissions เพื่อตรวจสอบและรับชุดสิทธิ์ได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย